วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่นมอบรถพยาบาลเครื่องมือแพทย์ รพร เชียงของ



วานนี้ (3 ก.ค.57 ) ที่ห้องประชุมลำน้ำโขง ตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย นายอะคิฮิโกะ ฟุจิอิ กงสุลญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ได้เดินทางมามอบรถพยาบาลฉุกเฉินและครุภัณฑ์การแพทย์ เพื่อการสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพโรงพยาบาล ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์(จีจีพี) ซึ่งประกอบด้วยรถพยาบาลฉุกเฉิน 1 คัน เครื่องเฝ้าระวังสัญญาณชีพ จำนวน 3 เครื่อง เครื่องกระตุกหัวใจ เครื่องอัลตร้าซาวด์ อย่างละ 1 เครื่อง เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจพร้อมแปลผลและเครื่องให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำอย่างละ 2 เครื่อง รวมมูลค่า 3,494,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินและการบริการทางการแพทย์ โดยมีนายแพทย์สมปรารถน์ หมั่นจิต ผู้อำนวยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ เป็นผู้รับมอบ มีนายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ส่วนราชการ บุคลากรเจ้าหน้าที่ รพร.เชียงของ ประชาชนชาวเชียงของให้การต้อนรับ


                        นายอะคิฮิโกะ ฟุจิอิ กงสุลญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กล่าวว่าการให้ความช่วยเหลือด้านการสนับสนุนครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพ ต่อระบบการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินและการบริการทางการแพทย์ เนื่องจากอำเภอเชียงของมีชายแดนติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีแม่น้ำโขงเป็นแนวเขต มีการให้บริการทางการแพทย์แก่คนไข้จากเพื่อนบ้าน และเพื่อให้ทันกับสถานการณ์หลังการเปิดใช้สะพานฯแห่งที่ 4 และการสู่ประชาคมอาเซียน ชัดเจนว่าเชียงของจะมีบทบาทสำคัญเป็นเมืองหน้าด่านด้านการขนย้ายสินค้าและผู้คนจะเพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันทางโรงพยาบาลเชียงของยังขาดอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยและรถพยาบาลทำให้ประสบความยากลำบากในการรักษาและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือจัดหารถแวนพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมมีความมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนแก่โครงการที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปรับปรุงการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องต่อไป 


                 นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ เป็นโรงพยาบาลของรัฐตั้งอยู่ศูนย์กลางพื้นที่ด้านตะวันออกของจังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 110 กิโลเมตร ให้บริการรักษาคนไข้ในพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้านบนพื้นฐานของหลักมนุษยธรรม มีระบบบริการแก่ผู้ป่วยหนักที่ส่งต่อยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ในตัวเมืองเชียงราย จึงนับเป็นความโชคดีของชาวเชียงของและประเทศเพื่อนบ้านที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือสนับสนุนรถพยาบาลฉุกเฉินและครุภัณฑ์การแพทย์ ซึ่งโรงพยาบาลจะได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อผู้ป่วยต่อไป 
สำหรับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 90 เตียง มีการพัฒนาเพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยให้ดีขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันมีผู้มารับบริการรักษาทั้งชาวไทยและจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หลังเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ-ห้วยทราย

วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2557

เชียงของฟื้นตำนาน"ปู่ละหึ่ง"วันสังขาลล่องปี๋ใหม่เมือง




ชูปู่ละหึ่งดึงท่องเที่ยววันสังขารล่องเชียงของ
อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงรายฟื้นตำนาน"ปู่ละหึ่ง"บุรุษร่างใหญ่ของคนลุ่มน้ำของเป็นครั้งแรกแห่รอบเมืองรับวันสังขาลล่องในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 57หวังชูอัตลักษณ์เมืองเก่าโปรโมตการท่องเที่ยว@@ เมื่อเวลา 00.01 น. ของวันที่ 13เมษายน 57 ซึ่งเป็นวันแรกของกิจกรรมประเพณีปีใหม่เมืองหรือวันสังขารล่องในเทศกาลวันสงกรานต์ ประจำปี 2557 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายโดยเครือข่ายการท่องเที่ยวอำเภอเชียงของกลุ่มรักษ์เชียงของและภาคประชาชนชาวเชียงของ ได้ร่วมกันจัดประเพณีแห่"ปู่ละหึ่ง" ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อฟื้นตำนานนิทานเรื่องเล่าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักและส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยมีการจำลองหุ่นร่างยักษ์ชื่อว่า"ปู่ละหึ่ง"สูงกว่า5 เมตรแต่งกายด้วยชุดโบราณสีดำแดงห้อยลูกปะคำสวมหมวกใบใหญ่มีหนวดเครายาวหน้าตาดุดันถือมีดดาบเล่มใหญ่นั้งบนล้อเกวียนลากโบราณที่ประดับด้วยตุงล้านนา 12 ราศี
นอกจากนี้ยังมีล้อเวียนลากบรรทุกพืชผักผลไม้อุปกรณ์เครื่องมือหาปลาพื้นบ้านลุ่มน้ำโขง และอุปกรณ์เครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ รวม
4 ขบวน ตกแต่งประดับด้วยแสงไฟสวยงามตั้งขบวนบริเวณท่าเเรือน้ำลึกหน้าวัดหัวเวียง ต.เวียง อ.เชียงของ จากนั้นเคลื่อนขบวนไปตามถนนสายกลางไปยังท่าผาถ่านซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 4 กิโลเมตรในขบวนมีการแสดงการละเล่นของชนเผ่าพื้นเมือง การแสดงดนตรีประกอบขบวน การแสดงพ่นไฟโดยตลอดระยะทางที่ขบวนแห่ปู่ละหึ่งผ่านต่างได้รับความสนใจจากประชาชนทุกเพศทุกวัยของสองฝั่งถนนออกมาต้อนรับและดูรูปร่างหน้าตาของปู่ละหึ่งเป็นจำนวนมากต่างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปปู่ละหึ่งไว้เป็นที่ระลึกโขณะที่เด็กบางคนอยากดูแต่ก็ไม่กล้าต้องแอบอยู่หลังผู้ปกครองเนื่องจากมีความกลัว 

                              นายธวัชชัย ภู่เจริญยศ ปลัดอาวุโสอำเภอเชียงของ กล่าวว่า การจัดประเพณีแห่ปู่ละหึ่งในครั้งนับว่าเป็นครั้งแรกของไทยที่จัดขึ้นที่เชียงของนี้เพื่อสื่อให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของอำเภอเชียงของผ่านคำบอกเล่าที่มีมาแต่โบราณโดยปู่ละหึ่งเป็นชื่อเรียกของคนล้านนามีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับคนทางภาคเหนือโดยเฉพาะแถบลุ่มน้ำโขงประกอบกับช่วงวันสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยวันเวลาที่ล่วงเลยไปอีกปีที่คนล้านนามีความเชื่อเรื่องปู่ละหึ่งแต่ไม่เคยเห็นอีกทั้งอำเภอเชียงของมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมที่หลากหลายเป็นประตูสู่อาเซียนมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4เราจึงพยายามสร้างอัตลักษณ์ด้านวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้คนเชียงของได้ยึดถือปฎิบัติสืบไปตลอดจนให้คนทั่วไปได้รู้จักเชียงของในอีกมุมมองหนึ่งและหวังว่าปีต่อๆไปจะจัดให้ใหญ่และน่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นกิจกรรมประจำปีของคนเชียงของต่อไป
                              สำหรับ"ปู่ละหึ่ง"คือเรื่องราวตำนานพื้นถิ่นของคนลุ่มน้ำของที่เล่าสืบต่อกันมา ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายเรื่องราวสำนวนแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นแต่มีโครงเรื่องหลักที่เหมือนกันคือ ปู่ละหึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนลุ่มน้ำของที่มีรูปร่างใหญ่โตภูดอยเกาะแก่งในเขตสองฟากฝั่งน้ำของเป็นเพียงแค่ก้อนดินจากการไถแปรของปู่ละหึ่งเท่านั้น


                           ส่วนตำนานพื้นถิ่นของคนลุ่มน้ำของ(แม่น้ำโขง)ณ เมืองเชียงของเล่าสืบกันมาว่า ปู่ละหึ่งหาบถ่านสองก๋วยด้วยไม้คาน หรือ ไม้กานในภาษาคำเมือง เดินทางขึ้นไปทางเหนือของเมืองเชียงของเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณเหนือผากันตุง ไม้กานหักพื้นที่บริเวณที่ไม้กานหักก็คือบ้านเมืองกานซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำของในเขตตำบลริมโขงปัจจุบันถ่านที่หาบไปก๋วยหนึ่งตกอยู่บริเวณไม่ไกลจากบ้านเมืองกานนัก เรียกบริเวณนั้นว่า"ผาถ่านหลวง"ส่วนอีกก๋วยตกอยู่ที่ผาถ่านริมท่าเรือวัดหลวงในเขตตำบลเวียงปัจจุบันดูจากตำแหน่งที่ก๋วยทั้งสองตกก็พอให้จินตนาการถึงความใหญ่โตของปู่ละหึ่งได้ว่าสูงใหญ่เพียงไรและหากพิจารณาลักษณะหินที่บริเวณที่ถูกเรียกว่าผาถ่านจะพบว่ามีลักษณะไม่แตกต่างไปจากถ่านเลย และตลอดสองฝั่งแม่น้ำจากเชียงของถึงเชียงแสน มีตำนานเล่าต่อกันว่า
ปู่ละหึ่งครอบครองแผ่นน้ำแผ่นดินน้ำโขงตลอดแม่น้ำบริเวณนี้ร่างที่สูงใหญ่เป็นยักษ์ ขนาดถอนต้นไม้ใหญ่ ๆ มาสานเป็นกระด้ง เป็นไซเครื่องไม้เครื่องมือก็ใหญ่โต ส่วนขี้ไถ หรือรอยไถก็มีขนาดประมาณดอยที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
ปู่ละหึ่งไม่เพียงเป็นตำนานของคนลุ่มน้ำของอย่างเมืองเชียงของเท่านั้น ยังรวมเป็นเรื่องเล่าขานมากมายโยงชื่อบ้านนามเมืองของ คนอิสาน คนลาว ต่างเล่าถึงชายร่างใหญ่ปานยักษ์คล้ายกัน อาจต่างชื่อต่างนามไปตามถิ่นนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

เสื้อแดงเชียงของแจ้งความเอาผิดศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเลือกตั้งโมฆะ

แดงเดือด"เอาผิดศาลฯล้มเลือกตั้ง
(1 เม.ย.57)  ณเวทีชั่วคราวลานกลางแจ้ง ศูนย์การค้าชายแดนเชียงของเมืองใหม่หน้าด้านพรหมแดนเชียงของ นางบุศริณธญ์ (ติยะไพรัช) วรพัฒนานันท์ พี่สาวนายยงยุทธติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนจัดเวทีปราศรัยหาเสียงเตรียมพร้อมลงสมัครนายก อบจ.เชียงราย แทนนางสลักจฤฎดิ์ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ. ภรรยานายยงยุทธ ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิทางการเมือง10 ปีคดีกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย เมื่อปี 2547 โดยใช้ชื่อว่า รวมพลคนเชียงรายรักความยุติธรรมมีนายณัฐวุฒิใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช.มาปราศรัยมีผู้นำท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายพรรคเพื่อไทยรวมทั้ง สมาชิกสภาอบจ.จากอำเภอต่างๆของจังหวัดเชียงรายรวมทั้งแกนนำเสื้อแดงหัวคะแนนฯในพื้นที่นำมวลชนจาก อ.เชียงของและ อ.เวียงแก่น เข้าร่วมฟังปราศรัยประมาณ
10,000 คน ประเด็นหลักมีการโจมดีฝ่ายตรงข้ามสนับสนุนเชียร์นางบุศริณธญ์ว่่าผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงราย 
                     โดยนายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่าฝ่ายตรงข้ามคู่แข่งนางบุศริณธญ์ทุนหนา หัวใจคนเชียงรายมีเกิยรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้
รักประชาธิปไตยรักความถูกต้องรักชาติแผ่นดิน รวมทั้งกล่าวถึงสถาณการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันว่าทหารจะออกมาแน่ถ้ากลุ่มผู้มีความเห็นไม่ตรงกันทางการเมืองมีการปะทะกันยังระบุการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านมา กปปส.ได้สว.หลายที่นั่งก็จะอ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกมา และชักชวนคนให้ไม่เอารัฐบาลแต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่ยอมออก เพราะแม้จะมีการไล่นายกรัฐมนตรี
แต่ยังมีรองนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่อีกถึง
7 ปล่อยให้ไล่ต่อทั้งนี้ให้เตรียมพร้อมรับสัญาณการต่อสู้และแสดงพลังเจตนารมณ์ร่วมกัน
           

    ขณะที่นางบุศริณธญ์ (ติยะไพรัช)วรพัฒนานันท์ ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงราย ได้แนะนำตนเอง ประวัติส่วนตัว
ผลงานในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งความพร้อมในการสานต่อนโยบายของนายกอบจ.เชียงรายคนเก่าในหลายโครงการ เช่น เชียงรายซิตี้ไลน์โครงการเศรษฐกิจชายแดนเชียงของ

                ถัดมาวันรุ่งขึ้น ที่สภ.เชียงของ เสื้อแดงเชียงของประมาณ 30 คน นำโดยนางโสภาพรรณ สุขะตุงคะ นายไพทูรย์ สุขตะโก นำเอกสารฯเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 กพ. เป็นโมฆะ โดยโสภาพรรณ ระบุว่า คณะตุลาการศาลฯไม่มีความยุติธรรมที่ตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 กพ.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ
ประชาชนที่ไปลงคะแนนได้รับความเสียหายประเทศชาติต้องเสียงบประมาณจำนวนมากจัดเลือกตั้งใหม่ ใครจะรับผิดชอบ
           ทั้งนี้การลงชื่อแจ้งความเอาผิดกับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของกลุ่มเสื้อแดงได้นัดแจ้งความฯพร้อมกันทั้่วประเทศในพื้นที่ของตนเองโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นไป


ค้นโกดังอดีต สจ เชียงของ พบไม้ชิงชันแปรรูป 30 กว่าท่อน

(3 เม.ย.57) จนท.ตำรวจ ทหารพราน นรข. ตชด. ฝ่ายปกครอง ศุลกากร ป่าไม้ สนธิกำลังกว่า 100 นาย นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าเลขที่ 199 ม.1 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ติดลำน้ำโขง ปากทางเข้าจุดผ่อนปรนชั่วคราว บ้านหาดบ้าย ม.1 ต.ริมโขง ซึ่งเป็นเป็นโกดังเก็บสินค้าทางการเกษตร ปั้มน้ำมันและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มีนายสุธรรม ไชยชนะ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.1 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย อดีต ส.จ.เขต 2 อ.เชียงของ รับเป็นเจ้าของและนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบไม้ชิงชันแปรรูปขนาดต่างๆจำนวน 309 แผ่นเหลี่ยม ปริมาตรกว่า 25 ลบ.ม. มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ตรวจสอบไม่มีเอกสารใดๆมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางไว้ตรวจสอบพร้อมดำเนินคดีกับนายสุธรรมฯ 


             ด้านนายสุธรรม ไชยชนะ เปิดเผยว่า ไม้จำนวนดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นของใครนำมาไว้ที่โกดังของตนเอง ขณะเกิดเหตุตนติดงานที่ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งทราบจากลูกน้องที่เป็นคนเฝ้าโกดังว่าเมื่อคืนประมาณ 4 ทุ่ม มีรถบรรทุกขอนำไม้มาไว้ ซึ่งตนเองได้ให้ภรรยาไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.ส.ภ.เชียงของ เปิดเผยว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับไม้ฯดังกล่าว แต่มั่นใจจะสามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งพยานบุคคล สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมต่างๆที่จะสามารถเชื่อมโยงให้เห็นภาพว่าเป็นเจ้าของไม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เบื้องต้นแจ้งข้อหามีไม้หวงห้าม (ไม้ชิงชัน) แปรรูปเกินกว่า 0.20 ลบ.ม. ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 



          ทั้งนี้การตรวจค้นจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกไม้ฯพลิกคว่ำบริเวณบ้านแซว ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นเหตุให้คนขับและผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย ตรวจสอบเป็นรถขบวนการลำเลียงไม้แปรรูปเถื่อน บรรทุกไม้ชิงชันแปรรูปเต็มคันรถจำนวน 3 คัน วิ่งมาจาก อ.เชียงแสน มุ่งหน้า อ.เชียงของ เกิดอุบัติเหตุ 1 คัน ส่วนอีก 2 คัน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนพบว่ามีการนำไม้มาเก็บไว้ที่โกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้นและพบของกลางไม้ชิงชันแปรรูปจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ ทั้งนี้คาดว่าไม้ดังกล่าวเตรียมสวมสิทธิ์ส่งข้ามแดนผ่านแม่น้ำโขงไปยังประเทศจีน

สีสันเกณฑ์ทหารเชียงของ 2557



อำเภอเชียงของ จ.เชียงราย ทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2557 โดยมีชายไทยอายุ 21 ปีบริบูรณ์ และผู้ที่เกิด พ.ศ.2526 - 2533 ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก หรือ อยู่ระหว่างผ่อนผัน  เข้ารับการตรวจเลือปีนี้จำนวน 678 คน จับใบดำได้ 139 ใบแดงได้ 74  รวใใบดำแดง 213 คน สำหรับปีนี้ทางกองทัพมีความต้องการทหารกองประจำการจำนวน 100,865 คนจากผู้รับเข้าตรวจเลือกทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 347,831 คน

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

ยึดไม้แปรรูปเถื่อนเชียงของ

ป่าไม้สกัดจับรถบรรทุกไม้เถื่อนยึดชิงชันแปรรูป
97 ท่อนเตรียมสวมรอยส่งนอกประเทศ ขณะที่ตำรวจอายัดอีกคันซุกไม้เต็มรถไว้สอบ

เช้ามืดที่ผ่านมา(01.50) นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) พร้อมด้วย นายวัชระ ศักดิ์เจริญ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร. 8 (หาดไคร้) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสกัดจับรถบรรทุกสิบล้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-3489ลำปาง  ได้ที่ทางเข้าหมู่บ้านทุ่งพัฒนา ม.13 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงรายหลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนไม้ผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ พบไม้ชิงชันแปรรูปขนาดต่างๆจำนวน  97 แผ่นเหลี่ยม ยาว 2 เมตร ปริมาตร 6.03 ลบ.ม.อยู่ภายในรถ  ตรจสอบเอกสารของไม้จากนายณัฐศักดิ์ ชำนาญกาญ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 354 ม.6 ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง คนขับรถไม่มีมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและยึดไม้และรถของกลางไว้ตรวจสอบที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ช.ร.8(หาดไคร้) อ.เชียงของ จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงของดำเนินคดี 

                              เช้าวันนี้(19มี.ค.57) นายทนงศักดิ์ ธรรมโม เปิดเผยว่าไม้ชิงชันดังกล่าวมาจากจังหวัดเชียงใหม่เพื่อส่งให้นายทุนที่เชียงของโดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ปิดคลุมด้วยผ้าใบอย่างมิดชิดลำเลียงเข้าพื้นที่ปะปนกับรถขนส่งสินค้าอื่นๆโดยอาศัยช่างกลางดึกเพื่อหลบหลีกการตรวจคนของเจ้าหน้าที่โดยทำเป็นขบวนการมีนายทุนใหญ่ในพื้นที่สั่งตามออเดอร์เนื่องจากไม้มีเครื่องหมายตัวเลขกำกับทุกแผ่นจากนั้นจะนำพักเก็บไว้ที่โกดังก่อนจะประทับตราและเตรียมส่งออกนอกประเทศผ่านสะพานมิตรภาพฯที่ 4 ไปยังประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันไม้ชิงชันเป็นที่ต้องการของคนจีนอย่างมากเนื่องจากมีลักษณะคุณภาพคล้ายกับไม้พยุง ที่ผ่านมาสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ได้สกัดจับและตรวจยึดได้เป็นจำนวนมากซึ่งเจ้าหน้าที่จะเพิ่มมาตรการป้องกันกวดขันอย่างเข้มงวดต่อไป


                        ขณะเดียวกันในเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ถิรวุฒิ สุทะศิลป์ รอง ผกก.ป.สภ.เชียงของ เข้าควบคุมตรวจค้นรถบรรทุกสิบล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-0092 พะเยา มีนายจีระศักดิ์ มินทะขัติ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 ม.5 ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย เป็นคนขับขณะขับผ่านถนนสายกลาง ต.เวียง อ.เชียงของ พบไม้แปรรูปขาดต่างๆซุกซ่อนอยู่ภายจำนวนมากโดยมีผ้าใบคลุมมิดชิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะเชื่อมโยงกับไม้ฯที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจยึดไว้ก่อนหน้าหรือไม่

                       รายงานข่าวเพิ่มเติมว่าก่อนหน้าเมื่อเดือน ก.ย. 2556 ตำรวจ สภ.เชียงของสามารถยึดไม้ชิงชันแปรรูปลักษณะเดียวกันได้ กว่า 200 ท่อน ที่บรรทุกมากับรถบรรทุกสิบล้อพร้อมคนขับ ที่ลักลอบนำมาจากจังหวัดแพร่เพื่อนำส่งให้นายทุนในอำเภอเชียงของ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกันซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลต่อไป

วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557

รวบทันควันผู้ต้องหาซุกยาบ้า 1.7 แสนเม็ดในขนมปังปิ๊บส่งรถทัวร์ ตร.เชียงของขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ

ตร.เชียงของ ทำแผนซุกยาบ้า 1.7 แสนเม็ดปิ๊บขนมปังส่งรถทัวร์
เช้าวันนี้(7 มี.ค.57) ตำรวจ สภ.เชียงของ นำตัวนายศศลักษณ์ แซ่โซ้ง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/พ ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาที่นำปิ๊บขนมปังภายซุกซ่อนยาบ้า 174,000 เม็ด เตรียมส่งกับรถโดยสารสมบัติทัวร์โดยระบุผู้รับปลายทางที่กรุงเทพฯเมื่อเช้าวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ได้ก่อน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.เชียงของ จัดชุดสืบสวน สภ.เชียงของออกติดตามหาข่าวจนทราบว่านายศศลักษณ์ ยังหลบอยู่ในพื้นที่และสามารถเข้าจับกุมตัวไว้ได้ในวันถัดมา ขณะเดินป้วนเปี้ยนอยู่หลังที่ว่าการอำเภอเชียงของ 

                      โดยจุดแรกนำตัวนายศศลักษณ์ขณะซื้อปิ๊บขนมปังจำนวน 3 ใบ ที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งอยู่หน้าทางลงท่าเรือบั๊ค ต.เวียง อ.เชียงของ จากนั้นนำมาเก็บไว้ที่ บริสุทธิ์เกสท์เฮ้าท์ เลขที่ 63 ม.1 ต.เวียง อ.เชียงของ ซึ่งผู้ต้องหาได้เปิดเช่าไว้ และจุดสุดท้ายที่จุดจำหน่ายตั๋วรถโดยสารสมบัติทัวร์ เลขที่ 361/2 ม.3 ต.เวียง อ.เชียงของ ซึ่งเป็นจุดนำปิ๊บขนมปังซุกยาบ้ามาฝากส่งกับรถทัวร์โดยสารเพื่อส่งให้ผู้รับที่กรุงเทพฯ

                            พ.ต.ท.กฤตพัฒน์ บุณยเกษมโรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ สารวัตรเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่าเบื้อต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้นำปิ๊บขนมปังไปฝากส่งกับรถทัวร์โดยสารจริงแต่ไม่ทราบว่าภายในมียาบ้าบรรจุอยู่โดย โดยผู้ต้องหาระบุว่ามีผู้จ้างวานให้ซื้อขนมปังปิ๊ปจำนวน 3 ใบ จากนั้นนำไปวางไว้ข้างห้องพักจะมีคนนำปิ๊ปขนมไปและนำมาคืนให้ที่เดิม จนรุ่งขึ้นอีกวันให้นำไปส่งกับรถทัวร์ โดยได้รับค่าจ้าง 50000 บาท โดยจะได้รับเงินเมื่อมีผู้ไปรับของที่กรุงเทพแล้ว สารภาพเพิ่งทำเป็นครั้งแรกเพราะอยากได้เงินไว้ใช้จ่ายซึ่งจะได้ขยายผมหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป ส่วนผู้รับปลายทางที่กรุงเทพฯขระนี้เจ้าหน้าที่ทราบชื่อและที่อยู่แล้วคาดว่าจะสามารถจับมาดำเนินคดีได้เร็วๆนี้



ข่าว

ผู้กำกับเชียงของคนใหม่โชว์ผลงานชิ้นแรกจับยาบ้า 1.7 แสนเม็ด

08.00 น วานนี้( 5 มี.ค.57) พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.เชียงของ พ.ต.อ.ธนดล มีสรรณสุกุล ผกก.สอบสวน ฯ พ.ต.อ.เอกทัศน์ ชัยพรหม สวป.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้าตรวจสอบบริเวณจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารบริษัทสมบัติทัวร์ เลขที่ 361/2 ม.3 ต.เวียง อ.เชียงของ หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยวิธีการขนส่งปะปนกับพัสดุภัณฑ์สิ่งของทางรถทัวร์โดยสารเพื่อส่งให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯ พบปิ๊บขนมปังยี่ห้อ ABC จำนวน 3 กล่อง ระบุชื่อผู้รับพร้อมเบอร์โทร ปลายทางวิภาวดี ชื่อนายยันวุฒิ แซ่โซ้ง ผู้รับเมื่อตรวจ สอบภายใน พบว่ามียาบ้าชนิดสีส้มซุกซ่อนปะปบกับขนมปังอยู่ภายในกล่องขนม กล่องละ 6 มัด รวม 18 มัด เมื่อนำออกมานับดูพบมียาบ้ามัดละประมาณจำนวน 10,000 เม็ด แต่มีบางมัดที่มีจำนวนไม่เต็ม รวมยาบ้าทั้งหมดจำนวน 174,000 เม็ด จากการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้ามีผู้นำกล่องขนมปังทั้ง 3 กล่อง มาฝากส่งโดยระบุปลายทางกรุงเทพฯ ลักษณะเป็นชายชาวไทยภูเขา ทราบชื่อคือนายศศลักษณ์ แซ่โซ้ง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/พ ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามชายดังกล่าวแต่ไร้วี่แววและได้ตรวจสอบไปยังผู้รับปลายทางไม่สามารถติดต่อได้ซึ่งคาดว่าจะเป็นชื่อที่อยู่ปลอม ซึ่งจะได้ขยายผลติดตามผู้มาดำเนินคดีต่อไป จากนั้นจึงทำการตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมดไปแถลงข่าวที่ สภ.เชียงของ


                พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.เชียงของ กล่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดยังมีความพยายามนำยาเสพติดเข้าไปยังชั้นในของประเทศในรูปแบบต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขนส่งทางบริษัททัวร์และทางไปรษณีย์ โดย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้มอบนโยบายให้ดูแลกวดขันเป็นพิเศษ ซึ่งทาง สภ.เชียงของจะได้เพิ่มความเข้มงวดและการข่าวให้มากขึ้นเพื่อสกัดกั้นและปราบปราม รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการขนส่งช่วยสอดส่องดูแลหากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วย
                รายงานข่าวเพิ่มเติมว่าการจับกุมยาบ้าในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถยึดของกลางได้มากที่สุดหลัง พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.เชียงของ เพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเชียงของได้ไม่ถึงเดือน แทน พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.เมือง จ.แพร่