วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทหารเรือจัดโครงการรวมใจต้านภัยยาเสพติดเชียงของ


 ทหารเรือจัดโครงการรวมใจต้านภัยยาเสพติดเชียงของ
(18 ธ.ค.56) ฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตเชียงราย จัดโครงการกองทัพเรือรวมใจ ร่วมต้านภัยยาเสพติด ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 ณ หอประชุมโรงเรียนเชียงของวิทยาคม อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยมี พล.ร.ต.ปิติ วัลย์เพ็ชร เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือ เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับ เอไอ เอส มอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 500 ผืน และจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ของกองทัพเรือให้บริการตรวจรักษาฟรีแก่กับประชาชน ในพื้นที่ มอบอุปกรณ์กีฬาและทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนเชียงของวิทยาคม รวมทั้งจัดกิจกรรมสันทนาการ การแสดงดนตรีโดยกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ การจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดให้ความรู้แก่นักเรียนโรงเรียนเชียงของ วิทยาคม โดยมีนายธวัชชัย ภู่เจริญยศ ปลัดอาวุโสอำเภอเชียงของ น.ส.อรทัย ฮงประยูร นายกเทศมนตรีตำบลเวียง ผู้บริหารท้องถิ่น ส่วนราชการในสังกัด ให้การต้อนรับ มีนักเรียน เจ้าหน้าที่ คณะครูโรงเรียนเชียงของวิทยาคมเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก
           พล.ร.ต.ปิติ วัลย์เพ็ชร เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือ ได้สนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งกำหนดให้เป็นวาระแห่ง ชาติ โดยมีมาตรการปฏิบัติไว้หลายประการเช่น การป้องกันกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยงและสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติดโดยเฉพาะเด็กและ เยาวชนซึ่งทุกฝ่ายจะต้องปกป้องดูแลมิให้ตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดโดยเสริม สร้างภูมิคุ้มกันปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องให้มีโอกาสร่วมกิจกรรมในเชิงสร้าง สรรค์ทางดนตรีกีฬาหรือื่นๆตามความเหมาะสม การจัดโครงการกองทัพเรือรวมใจ ร่วมต้านภัยยาเสพติดในครั้งนี้ทางฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือได้นำชุดปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของการผสม ผสาน การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด กิจกรรมสันทนาการ การแนะแนวการศึกษาเข้าเป็นนักเรียนทหารในส่วนของกองทัพเรือ การให้บริการทางการแพทย์และมอบอุปกรณ์กีฬาอุปกรณ์การศึกษา ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนชาวเชียงของที่จะนำความรู้ ในครั้งนี้เป็นภูมิคุ้มกันตนเองและร่วมเป็นพลังของชาติในการป้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติดร่วมกันกับศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือต่อไป โดยวันพรุ่งนี้ก็จะได้จัดกิจกรรมลักษณะนี้ที่ ณ โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และทั่วประเทศรวมในพื้นที่จังหวัดนครพนม ภูเก็ต สงขลา และจันทบุรี ตราดอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คาราวานรถยนต์จีนคณะแรกหลังสะพานฯเชียงของเปิดใช้



(12 ธ.ค.56) ที่ด่านพรหมแดน สะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. ร่วมต้อนรับคณะคาราวานรถยนต์จีน 46 คัน จำนวน 183 คน ที่มาจากมณฑลยูนนานและมณฑลเสฉวน มา รวมตัวกันออกเดินทางจากเมืองสิบสองปันนา มณฑณยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว จีน – ลาว - ไทย หรือ R 3 A (เส้นทาง สิบสองปันนา – บ่อหาน – หลวงน้ำทา – ห้วยทราย - เชียงของ) ข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 4 ณ อ. เชียงของ จ. เชียงราย ซึ่งคาราวานรถยนต์จีนคณะนี้นับได้ว่าเป็นคณะแรกที่เดินทางข้ามแดนมาท่อง เที่ยวประเทศไทยผ่านสะพานแห่งมิตรภาพไทย-ลาวแห่งใหม่ ซึ่งได้มีพิธีเปิดสะพานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ กล่าวว่า “คณะคาราวานรถยนต์ดังกล่าว ประกอบด้วย นักท่องเที่ยวจีน กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงจาก 2 มณฑล ได้แก่ มณฑลเสฉวนและมณฑลยูนนาน รวมทั้งสิ้น 183 คนโดยจะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจะกระจายตัวออกเดิน ทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง และสุโขทัย ระหว่างวันที่ 12 - 17 ธันวาคม 2556 วัตถุประสงค์ของการการเดินทางมายังประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 4 อย่างเป็นทางการและขานรับนโยบายด้านการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม คุณภาพให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ภายหลังที่รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายใหม่ด้านการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในภาคเหนือของไทยที่ไม่ได้ รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ อันส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยใน ช่วงดังกล่าว โดยในช่วงค่ำวันเดียวกัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะคาราวานท่องเที่ยวดังกล่าวที่ไร่แม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงรายด้วย
โดยททท. คาดว่าตลอด 6 วัน ของการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยของคณะคาราวานรถยนต์นี้ จะสร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ทั้งนี้ จากสถิตินักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม - กันยายน 2556 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 4,056,522 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 84.08 และคาดว่าภายในสิ้นปี 2556 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากถึง 4.46 ล้านคน

เปิดด่านฯสะพานมิตรภาพ 4 วันแรกคึกคัก

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พระเทพฯเสด็จฯเปิดสะพานไทยลาว 4


11/12/13 ไทยลาวชื่นมื่นปลื้มปิติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จเป็นองค์ประธานร่วมกับพณฯบุนยัง วอละจิต รองประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่4(เชียงของ-ห้วยทราย)




วันนี้(11 ธ.ค.56)  เวลา 10.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ร่วมกับ ฯพณฯ บุนยัง วอละจิต รองประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยช่วงเช้าสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพ 4 ฝั่งไทย และชมนิทรรศการเชื่อมสัมพันธ์สองแผ่นดิน ณ อาคารด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพ 4 ฝั่งไทย จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลางสะพานมิตรภาพ 4 มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสทสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรีลาวกราบบังคมทูลรายงาน ต่อมาเวลา 10.00 น. ทรงกดปุ่มแพรคลุมป้ายเปิดสะพาน กลางสะพานแม่น้ำโขง ร่วมกับ ฯพณฯ บุนยัง วอละจิต รองประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลา โดยมีพระสงฆ์ไทย-ลาวเจริญชัยมงคลคาถา จากนั้นทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับรองประธานประเทศลาวและคณะ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทางการลาวจัดถวายเสด็จพระราชดำเนินจากสะพานมิตรภาพ 4 ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจยังโรงเรียนสามัญกินนอนชนเผ่าแขวงบ่อแก้ว ก่อนจะเสด็จฯทรงร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันในโอกาสเปิดสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย)ที่โรงแรมเชียงของทีคการ์เด้นและเสด็จกลับในเวลา 13.30 น.โดยตลอดเส้นทางเสด็จฯผ่านมีหน่วยงานจากภาครัฐ เอกชน พ่อค้า ประชาชน และแขกผู้มีเกียรติตลอดจนพสกนิกรชาวอำเภอเชียงของต่างสวมใส่ด้วยชุดแต่งกายประจำถิ่นเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก
            

สำหรับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 นี้ ถือเป็นจุดเชื่อมอีกหนึงแห่งระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว เชื่อมจังหวัดเชียงรายของไทยกับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตามแนวถนนหมายเลข R3 (เชียงราย-คุนหมิง)และเป็นหนึ่งในโครงการแผนพัฒนาระเบียงเศรษกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor NSEC ) ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือ 6 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย เวียดนาม เมียนมาร์ กัมพูชา สปป.ลาว และจีนตอนใต้(ยูนาน) การก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 นี้ เป็นความร่วมมือระหว่างไทย สปป.ลาว และจีน ดยไทยและจีนได้ตกลงร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสะพานดังกล่าวในสัดส่วนที่เท่ากัน รวมการก่อสร้างทั้งหมด 1,600 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ด้านการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐานของไทย สปป.ลาวและจีนเข้าด้วยกัน ยังช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุน และเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสามประเทศอีกด้วย ที่สำคัญได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยการเชื่อมโยงภายในภูมิภาค (regional connectivity) และการปฏิสัมพันธ์ภาคประชาชน (people to people contact) เพื่อเตรียมความพร้อมของไทยและสปป.ลาว สู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558  ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 เดือน ธันวาคม 2556 (12/12/12) ได้มีพิธีเทคอนกรีตพื้นสะพาน(Final Casting Ceremony) โครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) เชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ
                     สะพานมิตรภาพ4เชียง ของ-ห้วยทรายตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งไทยที่บ้านดอนมหาวันตำบลเวียง อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย และบ้านดอนเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสะพานมิตรภาพ4เชียงของ-ห้วยทรายมีความยาว 1.2กิโลเมตรลักษณะงานประกอบด้วย 4ส่วนได้แก่ ส่วนที่ 1ถนนฝั่งไทยเป็นถนนลาดยางขนาด 4ช่องจราจรเขตทางกว้าง 60เมตรระยะทาง 5กิโลเมตรส่วนถนนในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นถนนลาดยางขนาด 2ช่องจราจรเขตทางกว้าง 50เมตรระยะทาง 6กิโลเมตร ส่วนที่2สะพานข้ามแม่น้ำโขง เป็นสะพานคอนกรีตอัดแรงขนาด2ช่องจราจรพร้อมทางเท้าทั้ง 2ข้างความกว้างสะพานรวม 14.70เมตรความยาวสะพานช่วงข้ามแม่น้ำโขง480เมตรและสะพานต่อเนื่องบนบกในประเทศไทยอีก150เมตรรวมทั้งสิ้น 630เมตรมีตอม่อในแม่น้ำโขง 4 ตอม่อ ส่วนที่ 3 ด่านพรมแดนฝั่งไทยและฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวซึ่งรวมพื้นที่สำหรับการตรวจปล่อยร่วมกัน ณ จุดเดียว และส่วนที่ 4 จุดเปลี่ยนทิศทางการจราจรในฝั่งไทยซึ่งอยู่ระหว่างด่านพรมแดนไทยกับสะพานข้ามแม่น้ำโขง
               ปัจจุบัน ไทย กับ สปป.ลาว มีสะพานเชื่อมระหว่างสองประเทศ 4 แห่ง ได้แก่ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 เชื่อมระหว่างจังหวัดหนองคายกับนครหลวงเวียงจันทน์ เปิดใช้เมื่อเดือนเมษายน 2537 ส่วนสะพานข้ามโขงแห่งที่ 2 เชื่อมระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับแขวงสะหวันนะเขต เปิดใช้เมื่อเดือนธันวาคม 2549 สำหรับ สะพานข้ามโขงแห่งที่ 3 เชื่อมระหว่างจังหวัดนครพนมกับแขวงคำม่วน เปิดใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 และสะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ-แขวงบ่อแก้ว) เป็นสะพานน้องใหม่ที่ได้มีพิธีเปิดในวันนี้