วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2557

เชียงของฟื้นตำนาน"ปู่ละหึ่ง"วันสังขาลล่องปี๋ใหม่เมือง




ชูปู่ละหึ่งดึงท่องเที่ยววันสังขารล่องเชียงของ
อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงรายฟื้นตำนาน"ปู่ละหึ่ง"บุรุษร่างใหญ่ของคนลุ่มน้ำของเป็นครั้งแรกแห่รอบเมืองรับวันสังขาลล่องในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 57หวังชูอัตลักษณ์เมืองเก่าโปรโมตการท่องเที่ยว@@ เมื่อเวลา 00.01 น. ของวันที่ 13เมษายน 57 ซึ่งเป็นวันแรกของกิจกรรมประเพณีปีใหม่เมืองหรือวันสังขารล่องในเทศกาลวันสงกรานต์ ประจำปี 2557 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายโดยเครือข่ายการท่องเที่ยวอำเภอเชียงของกลุ่มรักษ์เชียงของและภาคประชาชนชาวเชียงของ ได้ร่วมกันจัดประเพณีแห่"ปู่ละหึ่ง" ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อฟื้นตำนานนิทานเรื่องเล่าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักและส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยมีการจำลองหุ่นร่างยักษ์ชื่อว่า"ปู่ละหึ่ง"สูงกว่า5 เมตรแต่งกายด้วยชุดโบราณสีดำแดงห้อยลูกปะคำสวมหมวกใบใหญ่มีหนวดเครายาวหน้าตาดุดันถือมีดดาบเล่มใหญ่นั้งบนล้อเกวียนลากโบราณที่ประดับด้วยตุงล้านนา 12 ราศี
นอกจากนี้ยังมีล้อเวียนลากบรรทุกพืชผักผลไม้อุปกรณ์เครื่องมือหาปลาพื้นบ้านลุ่มน้ำโขง และอุปกรณ์เครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ รวม
4 ขบวน ตกแต่งประดับด้วยแสงไฟสวยงามตั้งขบวนบริเวณท่าเเรือน้ำลึกหน้าวัดหัวเวียง ต.เวียง อ.เชียงของ จากนั้นเคลื่อนขบวนไปตามถนนสายกลางไปยังท่าผาถ่านซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 4 กิโลเมตรในขบวนมีการแสดงการละเล่นของชนเผ่าพื้นเมือง การแสดงดนตรีประกอบขบวน การแสดงพ่นไฟโดยตลอดระยะทางที่ขบวนแห่ปู่ละหึ่งผ่านต่างได้รับความสนใจจากประชาชนทุกเพศทุกวัยของสองฝั่งถนนออกมาต้อนรับและดูรูปร่างหน้าตาของปู่ละหึ่งเป็นจำนวนมากต่างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปปู่ละหึ่งไว้เป็นที่ระลึกโขณะที่เด็กบางคนอยากดูแต่ก็ไม่กล้าต้องแอบอยู่หลังผู้ปกครองเนื่องจากมีความกลัว 

                              นายธวัชชัย ภู่เจริญยศ ปลัดอาวุโสอำเภอเชียงของ กล่าวว่า การจัดประเพณีแห่ปู่ละหึ่งในครั้งนับว่าเป็นครั้งแรกของไทยที่จัดขึ้นที่เชียงของนี้เพื่อสื่อให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของอำเภอเชียงของผ่านคำบอกเล่าที่มีมาแต่โบราณโดยปู่ละหึ่งเป็นชื่อเรียกของคนล้านนามีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับคนทางภาคเหนือโดยเฉพาะแถบลุ่มน้ำโขงประกอบกับช่วงวันสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยวันเวลาที่ล่วงเลยไปอีกปีที่คนล้านนามีความเชื่อเรื่องปู่ละหึ่งแต่ไม่เคยเห็นอีกทั้งอำเภอเชียงของมีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมที่หลากหลายเป็นประตูสู่อาเซียนมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4เราจึงพยายามสร้างอัตลักษณ์ด้านวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้คนเชียงของได้ยึดถือปฎิบัติสืบไปตลอดจนให้คนทั่วไปได้รู้จักเชียงของในอีกมุมมองหนึ่งและหวังว่าปีต่อๆไปจะจัดให้ใหญ่และน่าสนใจยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นกิจกรรมประจำปีของคนเชียงของต่อไป
                              สำหรับ"ปู่ละหึ่ง"คือเรื่องราวตำนานพื้นถิ่นของคนลุ่มน้ำของที่เล่าสืบต่อกันมา ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายเรื่องราวสำนวนแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นแต่มีโครงเรื่องหลักที่เหมือนกันคือ ปู่ละหึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนลุ่มน้ำของที่มีรูปร่างใหญ่โตภูดอยเกาะแก่งในเขตสองฟากฝั่งน้ำของเป็นเพียงแค่ก้อนดินจากการไถแปรของปู่ละหึ่งเท่านั้น


                           ส่วนตำนานพื้นถิ่นของคนลุ่มน้ำของ(แม่น้ำโขง)ณ เมืองเชียงของเล่าสืบกันมาว่า ปู่ละหึ่งหาบถ่านสองก๋วยด้วยไม้คาน หรือ ไม้กานในภาษาคำเมือง เดินทางขึ้นไปทางเหนือของเมืองเชียงของเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณเหนือผากันตุง ไม้กานหักพื้นที่บริเวณที่ไม้กานหักก็คือบ้านเมืองกานซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำของในเขตตำบลริมโขงปัจจุบันถ่านที่หาบไปก๋วยหนึ่งตกอยู่บริเวณไม่ไกลจากบ้านเมืองกานนัก เรียกบริเวณนั้นว่า"ผาถ่านหลวง"ส่วนอีกก๋วยตกอยู่ที่ผาถ่านริมท่าเรือวัดหลวงในเขตตำบลเวียงปัจจุบันดูจากตำแหน่งที่ก๋วยทั้งสองตกก็พอให้จินตนาการถึงความใหญ่โตของปู่ละหึ่งได้ว่าสูงใหญ่เพียงไรและหากพิจารณาลักษณะหินที่บริเวณที่ถูกเรียกว่าผาถ่านจะพบว่ามีลักษณะไม่แตกต่างไปจากถ่านเลย และตลอดสองฝั่งแม่น้ำจากเชียงของถึงเชียงแสน มีตำนานเล่าต่อกันว่า
ปู่ละหึ่งครอบครองแผ่นน้ำแผ่นดินน้ำโขงตลอดแม่น้ำบริเวณนี้ร่างที่สูงใหญ่เป็นยักษ์ ขนาดถอนต้นไม้ใหญ่ ๆ มาสานเป็นกระด้ง เป็นไซเครื่องไม้เครื่องมือก็ใหญ่โต ส่วนขี้ไถ หรือรอยไถก็มีขนาดประมาณดอยที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
ปู่ละหึ่งไม่เพียงเป็นตำนานของคนลุ่มน้ำของอย่างเมืองเชียงของเท่านั้น ยังรวมเป็นเรื่องเล่าขานมากมายโยงชื่อบ้านนามเมืองของ คนอิสาน คนลาว ต่างเล่าถึงชายร่างใหญ่ปานยักษ์คล้ายกัน อาจต่างชื่อต่างนามไปตามถิ่นนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

เสื้อแดงเชียงของแจ้งความเอาผิดศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเลือกตั้งโมฆะ

แดงเดือด"เอาผิดศาลฯล้มเลือกตั้ง
(1 เม.ย.57)  ณเวทีชั่วคราวลานกลางแจ้ง ศูนย์การค้าชายแดนเชียงของเมืองใหม่หน้าด้านพรหมแดนเชียงของ นางบุศริณธญ์ (ติยะไพรัช) วรพัฒนานันท์ พี่สาวนายยงยุทธติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนจัดเวทีปราศรัยหาเสียงเตรียมพร้อมลงสมัครนายก อบจ.เชียงราย แทนนางสลักจฤฎดิ์ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ. ภรรยานายยงยุทธ ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิทางการเมือง10 ปีคดีกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย เมื่อปี 2547 โดยใช้ชื่อว่า รวมพลคนเชียงรายรักความยุติธรรมมีนายณัฐวุฒิใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช.มาปราศรัยมีผู้นำท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายพรรคเพื่อไทยรวมทั้ง สมาชิกสภาอบจ.จากอำเภอต่างๆของจังหวัดเชียงรายรวมทั้งแกนนำเสื้อแดงหัวคะแนนฯในพื้นที่นำมวลชนจาก อ.เชียงของและ อ.เวียงแก่น เข้าร่วมฟังปราศรัยประมาณ
10,000 คน ประเด็นหลักมีการโจมดีฝ่ายตรงข้ามสนับสนุนเชียร์นางบุศริณธญ์ว่่าผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงราย 
                     โดยนายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่าฝ่ายตรงข้ามคู่แข่งนางบุศริณธญ์ทุนหนา หัวใจคนเชียงรายมีเกิยรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้
รักประชาธิปไตยรักความถูกต้องรักชาติแผ่นดิน รวมทั้งกล่าวถึงสถาณการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันว่าทหารจะออกมาแน่ถ้ากลุ่มผู้มีความเห็นไม่ตรงกันทางการเมืองมีการปะทะกันยังระบุการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านมา กปปส.ได้สว.หลายที่นั่งก็จะอ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกมา และชักชวนคนให้ไม่เอารัฐบาลแต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่ยอมออก เพราะแม้จะมีการไล่นายกรัฐมนตรี
แต่ยังมีรองนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่อีกถึง
7 ปล่อยให้ไล่ต่อทั้งนี้ให้เตรียมพร้อมรับสัญาณการต่อสู้และแสดงพลังเจตนารมณ์ร่วมกัน
           

    ขณะที่นางบุศริณธญ์ (ติยะไพรัช)วรพัฒนานันท์ ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงราย ได้แนะนำตนเอง ประวัติส่วนตัว
ผลงานในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งความพร้อมในการสานต่อนโยบายของนายกอบจ.เชียงรายคนเก่าในหลายโครงการ เช่น เชียงรายซิตี้ไลน์โครงการเศรษฐกิจชายแดนเชียงของ

                ถัดมาวันรุ่งขึ้น ที่สภ.เชียงของ เสื้อแดงเชียงของประมาณ 30 คน นำโดยนางโสภาพรรณ สุขะตุงคะ นายไพทูรย์ สุขตะโก นำเอกสารฯเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 กพ. เป็นโมฆะ โดยโสภาพรรณ ระบุว่า คณะตุลาการศาลฯไม่มีความยุติธรรมที่ตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 กพ.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ
ประชาชนที่ไปลงคะแนนได้รับความเสียหายประเทศชาติต้องเสียงบประมาณจำนวนมากจัดเลือกตั้งใหม่ ใครจะรับผิดชอบ
           ทั้งนี้การลงชื่อแจ้งความเอาผิดกับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของกลุ่มเสื้อแดงได้นัดแจ้งความฯพร้อมกันทั้่วประเทศในพื้นที่ของตนเองโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นไป


ค้นโกดังอดีต สจ เชียงของ พบไม้ชิงชันแปรรูป 30 กว่าท่อน

(3 เม.ย.57) จนท.ตำรวจ ทหารพราน นรข. ตชด. ฝ่ายปกครอง ศุลกากร ป่าไม้ สนธิกำลังกว่า 100 นาย นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าเลขที่ 199 ม.1 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ติดลำน้ำโขง ปากทางเข้าจุดผ่อนปรนชั่วคราว บ้านหาดบ้าย ม.1 ต.ริมโขง ซึ่งเป็นเป็นโกดังเก็บสินค้าทางการเกษตร ปั้มน้ำมันและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มีนายสุธรรม ไชยชนะ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.1 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย อดีต ส.จ.เขต 2 อ.เชียงของ รับเป็นเจ้าของและนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบไม้ชิงชันแปรรูปขนาดต่างๆจำนวน 309 แผ่นเหลี่ยม ปริมาตรกว่า 25 ลบ.ม. มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ตรวจสอบไม่มีเอกสารใดๆมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางไว้ตรวจสอบพร้อมดำเนินคดีกับนายสุธรรมฯ 


             ด้านนายสุธรรม ไชยชนะ เปิดเผยว่า ไม้จำนวนดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นของใครนำมาไว้ที่โกดังของตนเอง ขณะเกิดเหตุตนติดงานที่ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งทราบจากลูกน้องที่เป็นคนเฝ้าโกดังว่าเมื่อคืนประมาณ 4 ทุ่ม มีรถบรรทุกขอนำไม้มาไว้ ซึ่งตนเองได้ให้ภรรยาไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.ส.ภ.เชียงของ เปิดเผยว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับไม้ฯดังกล่าว แต่มั่นใจจะสามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งพยานบุคคล สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมต่างๆที่จะสามารถเชื่อมโยงให้เห็นภาพว่าเป็นเจ้าของไม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เบื้องต้นแจ้งข้อหามีไม้หวงห้าม (ไม้ชิงชัน) แปรรูปเกินกว่า 0.20 ลบ.ม. ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 



          ทั้งนี้การตรวจค้นจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกไม้ฯพลิกคว่ำบริเวณบ้านแซว ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นเหตุให้คนขับและผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย ตรวจสอบเป็นรถขบวนการลำเลียงไม้แปรรูปเถื่อน บรรทุกไม้ชิงชันแปรรูปเต็มคันรถจำนวน 3 คัน วิ่งมาจาก อ.เชียงแสน มุ่งหน้า อ.เชียงของ เกิดอุบัติเหตุ 1 คัน ส่วนอีก 2 คัน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนพบว่ามีการนำไม้มาเก็บไว้ที่โกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้นและพบของกลางไม้ชิงชันแปรรูปจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ ทั้งนี้คาดว่าไม้ดังกล่าวเตรียมสวมสิทธิ์ส่งข้ามแดนผ่านแม่น้ำโขงไปยังประเทศจีน

สีสันเกณฑ์ทหารเชียงของ 2557



อำเภอเชียงของ จ.เชียงราย ทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2557 โดยมีชายไทยอายุ 21 ปีบริบูรณ์ และผู้ที่เกิด พ.ศ.2526 - 2533 ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก หรือ อยู่ระหว่างผ่อนผัน  เข้ารับการตรวจเลือปีนี้จำนวน 678 คน จับใบดำได้ 139 ใบแดงได้ 74  รวใใบดำแดง 213 คน สำหรับปีนี้ทางกองทัพมีความต้องการทหารกองประจำการจำนวน 100,865 คนจากผู้รับเข้าตรวจเลือกทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 347,831 คน